เดี๋ยวนี้การรู้ภาษาอังกฤษอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ หลายคนเริ่มไปเรียนภาษาที่สามกันมากขึ้น เพราะอาจทำให้ช่วยให้คุณมีโอกาสในหน้าที่การเงิน โอกาสได้พบผู้คนที่มากหน้าหลายตา แถมยังมีโอกาสได้ไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยมีเคล็ดลับการเรียนภาษาที่สามให้เก่งมาฝาก

ภาษาเป็นเครื่องมือสำหรับสื่อสาร ไม่ใช่วิชาเก็บคะแนน

แท้จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่สามคุณควรเรียนรู้อย่างที่คุณต้องการ ไม่ต้องกดดันตัวเอง แถมถ้าคุณเรียนเพื่อให้สอบผ่านการวัดระดับ เมื่อสอบผ่านแล้วคุณก็จะหยุดเรียนรู้ ไม่มีความสม่ำเสมอ ก็อาจทำให้คุณลืมได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณมองภาษาที่สามเพื่อการใช้งาน พูดได้จริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

การเรียนภาษาที่สามต้องมาพร้อมกับ Passion

ต้องระลึกอบู่เสมอว่าเราเรียนภาษาที่สามเพื่ออะไร ทำไมถึงอยากเรียน บางครั้งความปรารถนาอันแรงกล้านี้จะช่วงผลักดันให้คุณเรียนภาษาที่สามได้ตามที่คุณต้องการ

กล้าที่จะพูดผิด

ข้อนี้ถือเป็นข้อที่สำคัญมากๆ เพราะเวลาที่เราพูดผิด พูดทั้งๆที่ไม่มั่นใจในไวยากรณ์ แต่สามารถสื่อสารให้อีกฝ่ายฟัง บางครั้งถึงขั้นที่อาจจะต้องใช้ภาษามือด้วยซ้ำ หรือท่าทางประกอบไปด้วย  ทำให้เรารู้สึกอึดอัด อยากรู้ และอยากกลับไปค้นว่าเราควรจะพูดยังไงให้ถูกต้อง หรือในขณะสนทนา ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าเราพูดผิด เขาจะไม่บอกว่าเราพูดผิดนะ แต่เขาจะพูดซ้ำในสิ่งที่เราต้องการสื่อด้วยประโยคที่ถูกต้อง ทำให้เราเรียนรู้ได้ทันที

เอาตัวเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อม

สาเหตุที่ใครหลายคนเรียนภาษามาหลายปี แต่ยังพูดไม่ได้สักที นั่นก็เพราะ ไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต้องใช้ภาษานั้นๆ อย่างเช่น อยู่ประเทศไทย พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็ทำงานหาเงินได้ มีเพื่อน มีสังคม ไม่ได้รู้สึกลำบาก แต่ถ้าคุณไปอยู่ในประเทศนั้นละ รับรองว่าจะยิ่งทำให้คุณรีบอยากจะพูดให้ได้เลย

สนใจผู้คนและวัฒนธรรมประเทศนั้น

จะเรียนภาษาที่สามให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เราจำเป็นต้องสนใจผู้คนและวัฒนธรรมของประเทศนั้นด้วย ช่วยทำให้พูดภาษานั้นได้เป็นธรรมชาติขึ้น เมื่อรู้จักลักษณะนิสัยของคนประเทศนั้นๆ จะทำให้สามารถเลือกคำพูดที่เหมาะสมกับกาลเทศะ และทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกดีได้ ถ้ารู้จักไปถึงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของเขา

ชอบอะไรให้ทำสิ่งนั้นด้วยภาษาที่สาม

การเรียนภาษาเริ่มจากความชอบ และเราต้องเสพสิ่งนั้นด้วยภาษาที่กำลังเรียนอยู่ ซึ่งการเรียนภาษานั้นเป็นเรื่องสนุก มีความอยากรู้อยากเห็นไปพร้อมกับภาษา อย่างเช่น ตอนเราเลี้ยงลูก เราก็ฟัง Podcast เลี้ยงลูกเป็นภาษาที่เราสนใจอยู่ หรือการดูรายการ Netflix เป็นประจำก็ได้เช่นกัน

คิดและพูดกับตัวเองเป็นภาษาที่สาม

สุดท้ายถ้าสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยคุณ ให้คุณเริ่มที่ตัวเองก่อนเลย ด้วยการฝึกกับตัวเองไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุณคิด หรือคุยกับตัวเองที่หน้ากระจกก็ช่วยได้เช่นกัน